036-510787-8

ประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้ใช้เว็บไซต์และแอพพลิเคชั่น

ของบริษัท ที.ซี.เค. อินเตอร์เนชันแนล จำกัด

             บริษัท ที.ซี.เค. อินเตอร์เนชันแนล จำกัด (“บริษัท”) ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในฐานะผู้ใช้เว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นของบริษัท บริษัทจึงขอแนะนำให้ท่าน โปรดอ่านและทำความเข้าใจประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้ใช้เว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นของบริษัทนี้เพื่อรับทราบวัตถุประสงค์ที่บริษัท ได้เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล ตลอดจนสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งจะเป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (รวมทั้งที่แก้ไขเพิ่มเติม) กฎกระทรวง ประกาศ และกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง (“พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”)

             โดยท่านสามารถศึกษารายละเอียดได้ดังต่อไปนี้

1. นิยาม

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เช่น ชื่อ นามสกุล ข้อมูลการติดต่อ ข้อมูลทางการเงิน เป็นต้น
“ข้อมูลอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทาง การเมือง ความเชื่อในลัทธิศาสนา หรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพ แรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ ข้อมูลลายพิมพ์นิ้วมือ ภาพสแกนใบหน้า หรือข้อมูลอื่นใด ซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกัน
“บริษัท” หมายถึง บริษัท ที.ซี.เค. อินเตอร์เนชันแนล จำกัด
“ประกาศ” หมายถึง ประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้ใช้เว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นของบริษัท ที.ซี.เค. อินเตอร์เนชันแนล จำกัด
“ท่าน” หมายถึง ผู้ใช้เว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นของบริษัท
“เว็บไซต์และแอพพลิเคชั่น” หมายถึง เว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น เว็บแอพพลิเคชั่น หรือโปรแกรมใดๆ ที่พัฒนาโดยบริษัทหรือผู้ที่ได้รับการว่าจ้างจากบริษัท โดยเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น เว็บแอพพลิเคชั่น หรือโปรแกรมๆใด มีไว้เพื่อให้บริการต่างๆ กับท่าน ไม่ว่าจะเป็น การให้ข้อมูลบริษัท ช่องทางการติดต่อ เป็นต้น ตามจุดมุ่งหมายของแต่ละเว็บไซต์ หรือแอพพลิเคชั่นนั้นๆ

2. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

2.1 การจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจะกระทำโดยมีวัตถุประสงค์ ขอบเขต และใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม โดยบริษัทจะเก็บรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างจำกัด และเท่าที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทเท่านั้น

2.2 บริษัทจะขอความยินยอมจากท่านก่อนทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่

     2.2.1 เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย

     2.2.2 เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้ทำการเก็บรวบรวมจากท่านหรือจากแหล่งอื่นที่บริษัทมีสิทธิตามกฎหมายก่อนที่พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลบังคับใช้

     2.2.3 เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น

     2.2.4 เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท หรือเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่บริษัท

     2.2.5 เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลอื่น หรือนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่บริษัท เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนตัวของท่าน

     2.2.6 เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุ เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัย หรือสถิติ ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของท่าน

ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายกำหนด บริษัทจะไม่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นข้อมูลอ่อนไหว (ตามที่ได้นิยามไว้ข้างต้น) โดยไม่ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน เว้นแต่

                  2.2.6.1 เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่าน ซึ่งท่านไม่สามารถให้ความยินยอมได้ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม

                  2.2.6.2 เป็นการดำเนินกิจกรรมโดยชอบด้วยกฎหมายที่มีการคุ้มครองที่เหมาะสมของมูลนิธิสมาคม หรือองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร ที่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการเมือง ศาสนา ปรัชญา หรือสหภาพแรงงานให้แก่สมาชิก ผู้ซึ่งเคยเป็นสมาชิก หรือผู้ซึ่งมีการติดต่ออย่างสม่ำเสมอกับมูลนิธิ สมาคม หรือองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร ตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว โดยไม่ได้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นออกไปภายนอกมูลนิธิสมาคม หรือองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรนั้น

                  2.2.6.3 เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของท่าน

                  2.2.6.4 เป็นการจำเป็นเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตาม หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

                  2.2.6.5 เพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล

                  2.2.6.6 เป็นการจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับ

                   (ก) เวชศาสตร์ป้องกัน หรืออาชีวเวชศาสตร์การประเมินความสามารถในการทำงานของลูกจ้าง การวินิจฉัยโรคทางการแพทย์ การให้บริการด้านสุขภาพ หรือด้านสังคม การรักษาทางการแพทย์ การจัดการด้านสุขภาพ หรือระบบ และการให้บริการด้านสังคมสงเคราะห์ ทั้งนี้ ในกรณีที่ไม่ใช่การปฏิบัติตามกฎหมาย และข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในความรับผิดชอบของผู้ประกอบอาชีพ หรือวิชาชีพ หรือผู้มีหน้าที่รักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไว้เป็นความลับตามกฎหมาย ต้องเป็นการปฏิบัติตามสัญญาระหว่างท่านกับผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์

                   (ข) ประโยชน์สาธารณะด้านการสาธารณสุข เช่น การป้องกันด้านสุขภาพจากโรคติดต่ออันตราย หรือโรคระบาดที่อาจติดต่อ หรือแพร่เข้ามาในราชอาณาจักร หรือการควบคุมมาตรฐาน หรือคุณภาพของยาเวชภัณฑ์ หรือเครื่องมือแพทย์ ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสม และเจาะจง เพื่อคุ้มครองสิทธิ และเสรีภาพของท่าน โดยเฉพาะการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลตามหน้าที่ หรือตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

                   (ค) การคุ้มครองแรงงาน การประกันสังคม หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของผู้มีสิทธิตามกฎหมายการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ หรือการคุ้มครองทางสังคม ซึ่งการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิ่งจำเป็นในการปฏิบัติตามสิทธิ หรือหน้าที่ของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือของท่าน โดยได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานและประโยชน์ของท่าน

                   (ง) การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ หรือประโยชน์สาธารณะอื่น ทั้งนี้ ต้องกระทำเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวเพียงเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานและประโยชน์ของท่านตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด

                   (จ) ประโยชน์สาธารณะที่สำคัญโดยจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานและประโยชน์ของท่าน

2.3 ทั้งนี้ บริษัทอาจไม่สามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์ตามข้อ 2.1 ได้ ในกรณีที่บริษัทไม่สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้หากบริษัทได้ร้องขอข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งจำเป็นต่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ หรือจำเป็นในการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา

2.4 บริษัทไม่มีนโยบายจัดเก็บข้อมูลอ่อนไหวจากท่าน ยกเว้น

     2.4.1 เป็นกรณีที่บริษัทได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือ

     2.4.2 กรณีอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนด

3. การดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้รับมา เช่น ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัตรประชาชน ข้อมูลทางการเงิน เป็นต้น ซึ่งสามารถบ่งบอกตัวบุคคลของท่านได้ ซึ่งเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความสมบูรณ์ และเป็นปัจจุบัน จะถูกนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์การดำเนินงานของบริษัทเท่านั้น และบริษัทจะดำเนินมาตรการที่เหมาะสมในการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ตลอดจนการป้องกันมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิได้รับความยินยอมจากท่านก่อน

4. วัตถุประสงค์ในการเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคล

4.1 บริษัทเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการดำเนินงานของบริษัทที่เกี่ยวกับท่าน ซึ่งได้แก่

     4.1.1 เพื่อใช้ในการให้บริการตามจุดมุ่งหมายของเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นของบริษัท

     4.1.2 เพื่อใช้ในการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นของบริษัท เพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของท่าน

     4.1.3 เพื่อใช้ในวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับการตลาด เช่น การเสนอขายสินค้าของบริษัทให้กับท่าน เป็นต้น

ทั้งนี้ บริษัทจะขอความยินยอมสำหรับวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับการตลาดก่อนที่บริษัทจะเริ่มดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ตามข้อ 4.1.3 นี้ โดยท่านมีสิทธิที่จะไม่ให้ความยินยอมกับบริษัทในวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับการตลาดได้ และการไม่ให้ความยินยอมดังกล่าว จะไม่กระทบกับการให้บริการในส่วนอื่นของบริษัทที่ไม่เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับการตลาดดังกล่าว

4.2 หากภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบ และขอความยินยอมจากท่านในภายหลัง

5. ข้อจำกัดในการใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

5.1 บริษัทจะใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามความยินยอมของท่าน โดยจะต้องเป็นการใช้และเปิดเผยตามวัตถุประสงค์ของการเก็บ รวบรวม ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่บริษัทได้แจ้งก่อนหรือในขณะที่เก็บหรือรวบรวมเท่านั้น

5.2 บริษัทจะดูแลให้ผู้ปฏิบัติงานของบริษัทมิให้เก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือทำให้ปรากฏในลักษณะอื่นใดซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน นอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ หรือต่อบุคคลภายนอก เว้นแต่ได้รับยกเว้นตามที่กำหนดไว้ในข้อ 2.2

5.3 ในบางกรณีบริษัทอาจกำหนดให้บุคคลหรือนิติบุคคล ที่เป็นผู้รับจ้างของบริษัท เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลและความปลอดภัยของข้อมูลของท่าน โดยห้ามบุคคลดังกล่าวนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้นอกเหนือจากที่บริษัทกำหนดให้บุคคลดังกล่าวดำเนินการ

5.4 บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกจากท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ในข้อ 4. ท่านมีหน้าที่แจ้งและขอความยินยอมจากบุคคลดังกล่าว เพื่อให้บริษัทสามารถใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกนั้น ตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทระบุไว้ได้ หากบริษัททราบในภายหลังว่าท่านเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกดังกล่าวโดยไม่ได้รับความยินยอม บริษัทขอสงวนสิทธิที่จะไม่ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกนั้นๆ

6. การเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ของบุคคลภายนอก

บริการบนเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นของบริษัทอาจมีการเชื่อมต่อไปยังเครือข่ายสังคมออนไลน์ แพลตฟอร์ม เว็บไซต์ แอพพลิเคชั่นอื่นที่มีบุคคลภายนอกเป็นผู้ดำเนินการ บริษัทพยายามที่จะเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ที่มีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่สามารถรับผิดชอบในเนื้อหาหรือมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นอื่นนั้น เว้นแต่จะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ข้อมูลส่วนบุคคลใดที่ท่านให้แก่เว็บไซต์หรือของบุคคลภายนอกนั้นจะถูกเก็บรวบรวมโดยบุคคลดังกล่าว และอยู่ภายใต้ประกาศหรือนโยบายเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยบุคคลภายนอกดังกล่าว (หากมี) ในกรณีเช่นว่านี้ บริษัทไม่อาจควบคุมและไม่อาจรับผิดชอบในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยบุคคลภายนอกดังกล่าว

7. นโยบายเกี่ยวกับการใช้คุกกี้

การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการใช้คุกกี้บนเว็บไซต์ทางการของบริษัท จะถูกกล่าวถึงในนโยบายเกี่ยวกับการใช้คุกกี้ของบริษัท ซึ่งจะประกาศให้ท่านได้ทราบบนเว็บไซต์ทางการของบริษัท โดยท่านสามารถอ่านและทำความเข้าใจ รวมถึงควบคุมการใช้คุกกี้ของเว็บไซต์นั้นๆ ได้ผ่านเครื่องมือบนเว็บไซต์ทางการของบริษัทนั้นๆ หรือวิธีการต่างๆ ตามที่ได้อธิบายในนโยบายเกี่ยวกับการใช้คุกกี้ของบริษัท

8. การรักษาความปลอดภัย

บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจึงกำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่มีสิทธิ หรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

9. การทบทวนแนวปฏิบัติ และนโยบายที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทมีนโยบายปฏิบัติตามกฎหมาย ประกาศของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทจะทบทวนประกาศนี้ หรือเอกสารอื่นใดที่เกี่ยวข้อง เป็นประจำทุกปี หรือระยะเวลาอื่นใดที่บริษัทเห็นสมควร เพื่อให้ประกาศหรือเอกสารอื่นใด รวมไปถึงแนวปฏิบัติ เป็นไปตามพรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายอื่นใดที่เกี่ยวข้อง ที่บังคับใช้ ณ ช่วงเวลานั้น

10. การมีส่วนร่วมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

10.1 ท่านสามารถขอเข้าถึง ขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่บริษัทกำหนด หรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม ทั้งนี้ บริษัทอาจปฏิเสธคำขอของท่านได้ตามที่กฎหมายกำหนด หรือตามคำสั่งของศาล (สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล)

10.2 ท่านมีสิทธิตรวจดูความมีอยู่ ลักษณะของข้อมูลส่วนบุคคล วัตถุประสงค์ของการนำข้อมูลไปใช้ของบริษัท อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจปฏิเสธสิทธิของท่านได้ในกรณีที่กฎหมายกำหนด หรือในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกทำให้ไม่ปรากฎชื่อหรือสิ่งบอกลักษณะอันสามารถระบุตัวท่านได้อีก (สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล)

10.3 หากท่านเห็นว่า ข้อมูลส่วนบุคคลใดที่เกี่ยวกับตนของท่านไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง ท่านสามารถแจ้งให้บริษัทแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือลบข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมด หรือแต่บางส่วนนั้นได้ ในการนี้ บริษัทจะจัดทำบันทึกคัดค้านการจัดเก็บ ความถูกต้อง หรือกระทำการใดๆ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นหลักฐานด้วย ในกรณีที่ท่านเสียชีวิต เมื่อมีคำสั่งจากศาล บริษัทจะอนุญาตให้ผู้สืบสิทธิ และ/หรือทายาทโดยธรรมของท่านมาแจ้งความประสงค์ขอข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ (สิทธิในการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง) (สิทธิในการลบข้อมูล)

10.4 ท่านมีสิทธิในการแจ้งให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการชั่วคราวก็ได้ ทั้งนี้ บริษัทจะพิจารณาไม่ดำเนินการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านก็ได้ หากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจำเป็นต่อการปฎิบัติหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ตามกฎหมาย หน้าที่ตามสัญญา หรือหน้าที่ตามข้อผูกพันใดๆ ที่บริษัทมีอยู่ในขณะที่ท่านขอใช้สิทธิในข้อนี้ (สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูล)

10.5 หากท่านไม่เห็นด้วยกับฐานการประมวลผลที่บริษัทพิจารณาใช้ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ไม่ว่าจะเป็นฐานภารกิจของรัฐ ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือฐานใดๆ ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลของบริษัทได้ (สิทธิในการคัดค้านการประมวลผล)

10.6 ท่านมีสิทธิในการขอโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทมีอยู่ในขณะที่ท่านใช้สิทธิให้กับบุคคลใดก็ได้ ทั้งนี้ บริษัทไม่มีหน้าที่ตามกฎหมายในการพิจารณาถึงมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามที่เป็นผู้รับโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามคำขอการใช้สิทธิของท่าน แต่บริษัทจะใช้ความพยายามโดยสมควรเพื่อให้ท่านมั่นใจว่าผู้รับโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามข้อนี้จะมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่น้อยไปกว่าของบริษัท โดยบริษัทจะปฏิเสธการทำตามคำขอของท่านในข้อนี้เพียงกรณีที่การใช้สิทธิของท่านไปละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น (สิทธิในการโอนย้ายข้อมูล)

10.7 หากบริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยใช้ฐานความยินยอม ท่านมีสิทธิในการถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ แต่ทั้งนี้ หากบริษัทพิจารณาดำเนินการถอนความยินยอมตามที่ท่านร้องขอ การถอนความยินยอมของท่านจะไม่กระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านใดๆ ที่บริษัทได้ดำเนินการไปก่อนที่ท่านจะแจ้งถอนความยินยอม (สิทธิในการถอนความยินยอม)

11. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 10 ปี นับจากวันที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่าน โดยเมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าว บริษัทจะทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ ท่านมีสิทธิที่จะร้องขอให้บริษัททำลาย และขอหลักฐานการทำลายข้อมูลสิทธิส่วนบุคคลของท่านได้ก่อนสิ้นระยะเวลาดังกล่าวไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ตามวิธีการและเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด

12. ความรับผิดชอบของบุคคลซึ่งทำหน้าที่ควบคุมข้อมูล

บริษัทจะมีระเบียบ คำสั่ง ให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบ หรือคำสั่งที่กำหนดไว้ เพื่อให้การดำเนินงานตามแนวนโยบายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทเป็นไปตามมาตรฐานของประกาศฉบับนี้

13. ช่องทางการติดต่อ

หากท่านประสงค์ที่จะสอบถามใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับประกาศฉบับนี้ หรือใช้สิทธิที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ตามช่องทางด้านล่างนี้โดยมีรายละเอียดการติดต่อของบริษัทแยกบริษัทตามที่ระบุไว้ในตารางแนบท้ายประกาศนี้

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer)

ที่อยู่ 518/5 อาคารมณียา เซ็นเตอร์ ชั้นที่ 16 ถนนเพลินจิต ลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร โทร 02-6805800 อีเมล dpo@tckinter.com